แก้ปัญหาน้องชายไม่แข็งตัว ด้วย gold viagra

อาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ หรือน้องชายไม่แข็งตัว คืออะไร?

อาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า อาการนกเขาไม่ขัน น้องชายไม่แข็งตัว จัดว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่สร้างความเครียดและความกังวลใจให้กับผู้ชายหลาย ๆ คนได้ จนอาจจะทำให้หมดความมั่นใจในตัวเอง และไม่สามารถมีความสุขในการมีเซ็กส์ได้ ก่อให้เกิดปัญหาทางด้านจิตใจตามมา และส่งผลต่อชีวิตคู่ได้เช่นกัน จนต้องมีการนำยาไวอากร้ามารักษา เช่น gold viagra ซึ่งอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศนั้น มีสิ่งที่ควรรู้ ดังนี้ 

1. ชื่ออาการดังกล่าวคือ โรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (Erectile Dysfunction) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า โรค ED โรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ คือ อาการที่อวัยวะเพศชายไม่สามารถแข็งตัวได้ หรือแข็งตัวได้ไม่นานพอที่จะมีเพศสัมพันธ์ได้ตามปกติ หรือมีความอ่อนตัวลงขณะมีเพศสัมพันธ์ อาการนี้มักพบร่วมกันกับอาการหลั่งเร็วในผู้ชายด้วย ซึ่งโรคนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับผู้ชายทุกวัย ซึ่งประมาณ 1 ใน 5 คน หรือราว ๆ 20% แต่มักจะพบมากในผู้ชายที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ซึ่งจะพบมากถึง 40% และพบมากขึ้นตามอายุที่เพิ่มมากขึ้นด้วย ในบางรายอาจมีอาการเป็นครั้งคราวเท่านั้น แต่ในบางรายอาจรุนแรงจนถึงมีอาการเรื้อรังนานเป็นปี หรือเป็นติดต่อกันหลายปี จนส่งผลให้เกิดความเครียด และความวิตกกังวลได้ 

2. การแบ่งระดับการแข็งตัวของอวัยวะเพศชาย หรือ EHS (The Erection Hardness Score) นั้น ทางการแพทย์สามารถแบ่งได้เป็น 4 ระดับ ดังนี้

- EHS 1 ความแข็งตัวในระดับที่อวัยวะขยายตัวขึ้น แต่ไม่สามารถแข็งตัวอยู่ได้เลย เป็นระดับที่รุนแรงที่สุดของอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ

- EHS 2 ความแข็งตัวในระดับที่อวัยวะเพศสามารถแข็งตัวได้ แต่ไม่แข็งพอที่จะมีเพศสัมพันธ์ได้

- EHS 3 ความแข็งตัวในระดับที่อวัยวะเพศแข็งตัวได้ไม่เต็มที่ แต่ยังเพียงพอที่จะมีเพศสัมพันธ์ได้

- EHS 4 ความแข็งตัวในระดับที่อวัยวะเพศสามารถแข็งตัวได้อย่างเต็มที่ และสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้อย่างสมบูรณ์ ระดับนี้คือในคนปกติ ที่ไม่มีสภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ 

3. อาการน้องชายไม่แข็งตัว หรือหย่อนสมรรถภาพนั้นเกิดจากอะไร?

อาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศในผู้ชาย สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น

- สาเหตุทางด้านร่างกาย เช่น อายุที่เพิ่มมากขึ้น, มีระดับฮอร์โมนเพศชายต่ำเกินไป, มีน้ำหนักตัวมากเกินไป รวมถึงมีพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคได้ เช่น นอนดึกเป็นประจำ พักผ่อนไม่เพียงพอ กินแต่อาหารที่ไม่มีประโยชน์ ไม่ค่อยออกกำลังกาย สูบบุหรี่หรือดื่มเหล้าจัด มีการใช้สารเสพติด เป็นต้น ซึ่งสาเหตุนี้มีแนวโน้มที่จะพบในผู้ชายที่มีอายุน้อยลงเรื่อย ๆ

- สาเหตุจากโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน, โรคความดันสูง, โรคหัวใจ, มีไขมันในเลือดสูง เป็นต้น รวมถึงการใช้ยารักษาโรคประจำตัวบางชนิดด้วย เช่น ยาขับปัสสาวะ ยาลดความดันเลือด เป็นต้น

- สาเหตุทางด้านจิตใจ เช่น มีภาวะเครียด วิตกกังวล ขาดความมั่นใจ เป็นโรคซึมเศร้า และต้องใช้ยาคลายเครียด หรือยารักษาโรคซึมเศร้า ก็จะเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้เช่นกัน 

4. ยาที่ใช้รักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ จะเป็นยาในกลุ่ม PDE-5 Inhibitor ซึ่งยาในกลุ่มนี้ก็เช่น viagra, levitra, cialis, sidegra และ gold viagra ซึ่งจะเป็นยาที่ใช้ในการรักษาโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศโดยตรง ที่ได้รับการรับรองว่าปลอดภัย และได้ประสิทธิภาพดี โดยจะต้องกินก่อนการมีเพศสัมพันธ์ประมาณ 30-60 นาที ซึ่งหลักการทำงานของยา คือ ตัวยาในกลุ่มนี้ชื่อว่า ซิลเดนาฟิล จะออกฤทธิ์ไปช่วยขยายตัวของหลอดเลือดในบริเวณอวัยวะเพศ ทำให้มีการไหลเวียนเลือดในอวัยวะเพศได้ดีขึ้น ส่งผลให้อวัยวะเพศเกิดการแข็งตัวได้ตามปกติ และแข็งตัวได้นานพอที่จะมีเพศสัมพันธ์ได้ ซึ่งยาในกลุ่มนี้อาจมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นได้บ้างในบางราย อาการก็เช่น ปวดศีรษะ มึนศีรษะ ตาพร่ามัวเล็กน้อย แพ้แสง หัวใจเต้นเร็ว เหงื่อออกง่าย เป็นต้น และข้อห้ามในการใช้ยากลุ่มนี้คือ ไม่ควรกินร่วมกับยากลุ่มไนเตรต ยารักษาความดัน ยารักษาโรคหัวใจ เพราะจะทำให้เป็นอันตรายได้ 

5. การรักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศวิธีอื่น ๆ ที่ทางการแพทย์ใช้ นอกจากการใช้ยาไวอากร้า หรือ gold viagra แล้วนั้น ก็คือ

– การฉีดฮอร์โมนสังเคราะห์ เพื่อไปปรับระดับฮอร์โมนเพศชายให้เป็นปกติ ในกรณีที่สาเหตุของอาการเกิดจากระดับฮอร์โมนเพศชายต่ำเกินไป

– ใช้กระบอกสูญญากาศ ในกรณีที่ใช้ยาไวอากร้าแล้วไม่ได้ผล

– ผ่าตัดใส่แกนอวัยวะเพศเทียม วิธีนี้จะเป็นวิธีการรักษาที่แพทย์เลือกใช้เป็นวิธีสุดท้าย ในกรณีที่วิธีอื่น ๆ ไม่ได้ผลในการรักษา 

6. แก้ปัญหาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ด้วยการปรับพฤติกรรมส่วนตัว ดังนี้

– พักผ่อนให้เพียงพอ ประมาณ 7-8 ชั่วโมงต่อวัน ไม่ควรนอนดึกเป็นประจำ เพราะจะส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกาย และทำให้เกิดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้ในอนาคต

– ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและเป็นประจำ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 30-45 นาที เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงและพร้อมในการออกรบเสมอ

– งดสูบบุหรี่ และงดดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากทั้งสองอย่างนี้คือหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการอวัยวะเพศไม่แข็งตัวได้ แม้ว่าจะยังมีอายุไม่มากก็ตาม

– เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์และครบ 5 หมู่ เพื่อร่างกายจะได้รับสารอาหาร เกลือแร่ และวิตามินครบถ้วน หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง หรืออาหารจังก์ฟู้ด และพยายามรักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่เข้าข่ายในการเป็นโรคอ้วน 

แก้ปัญหาหย่อนสมรรถภาพทางเพศด้วย gold viagra

การแก้ปัญหาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศในผู้ชายนั้น วิธีแรกที่จะใช้ในการรักษาก็คือ การใช้ยาไวอากร้า ซึ่งยาไวอากร้าในท้องตลาดนั้นก็มีหลายยี่ห้อด้วยกัน หนึ่งในยี่ห้อที่จะแนะนำก็คือ gold viagra เพราะเป็นยาไวอากร้าจากอเมริกา ที่ได้รับการวิจัยและพัฒนาค้นคว้ามาอย่างดี มีความปลอดภัย และได้ประสิทธิภาพจนกลายเป็นหนึ่งในยาไวอากร้ายอดนิยม ผลิตโดยบริษัท Ranbaxy ประเทศอเมริกา ภายในมีตัวยาซิลเดนาฟิลที่เป็นสารออกฤทธิ์สำคัญ เป็นตัวยาที่มีอยู่ในยาไวอากร้าหลาย ๆ ยี่ห้อ ได้รับการยอมรับว่าได้ผลดี 

ไวอากร้าโกลด์ เป็นสูตรที่เพิ่มประสิทธิภาพ ช่วยให้อวัยวะแข็งตัวได้เต็มที่และสมบูรณ์ พร้อมเข้าสู่สนามรบได้นานถึง 8-10 ชั่วโมง ด้วยเพราะตัวยาซิลเดนาฟิล ทำหน้าที่สร้างสมดุลในระบบไหลเวียนโลหิตของสมองให้เป็นไปตามปกติ และช่วยให้ระบบเลือดไหลเวียนไปยังอวัยวะเพศได้ดี ทำให้อวัยวะเพศสามารถแข็งตัวเต็มที่ได้อยู่ตลอดเวลา รู้สึกคึกคัก กะปรี้กะเปร่า และมีผลข้างเคียงในบางรายคือ ทำให้มีอารมณ์ทางเพศเพิ่มขึ้นอีกด้วย ช่วยให้สนามรักของคุณมีประสบการณ์ที่ดีขึ้นกว่าเดิม ทั้งยังผ่านกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน GMP รับรองความปลอดภัยและไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ใน 1 แผงบรรจุ จะมีทั้งหมด 10 เม็ด ขนาด 3000 mg. 

การใช้ยาให้มีประสิทธิผลดี

1. ควรกินยาก่อนมีเพศสัมพันธ์ ประมาณ 30-60 นาที ก่อนหรือหลังอาหารก็ได้ แนะนำให้กินตอนท้องว่าง

2. หากไม่เคยใช้ยามาก่อน แนะนำให้กินเพียงครึ่งเม็ด ภายใน 1 ชั่วโมงหากไม่เห็นผลค่อยกินที่เหลือตาม

3. ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขณะกินยานี้ หรือหลังจากที่กินยานี้เข้าไป เพราะแอลกอฮอล์จะทำให้ยาดูดซึมน้อยลง ทำให้ประสิทธิภาพยาลดลงได้

4. ไม่ควรกินยาเกินวันละ 1 เม็ด และไม่ควรกินติดต่อกันทุกวันและต่อเนื่องเป็นเวลานาน 

การรักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศนั้น ไม่ควรตัดสินใจซื้อยากินเองทันที ไม่ว่าจะเป็นยา gold viagra หรือยาไวอากร้าอื่น ๆ แต่ควรไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุ จะได้แก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด รวมถึงแพทย์จะเป็นผู้จ่ายยาและแนะนำปริมาณยาที่เหมาะสมในแต่ละบุคคลด้วย เพื่อจะได้รับการรักษาที่ถูกต้องและปลอดภัย